รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่ได้เป็นเพียงแค่ “กระแส” อีกต่อไป แต่กลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริหาร ครอบครัว และผู้มีวิสัยทัศน์ที่มองหาความยั่งยืนควบคู่กับความคุ้มค่า แต่การจะตัดสินใจซื้อรถ EV สักคันนั้น นอกจากเรื่องดีไซน์ สมรรถนะ และเทคโนโลยีแล้ว อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาคือค่าชาร์จรถไฟฟ้าที่แตกต่างกันไปตามค่ายและสถานีชาร์จ เพราะค่าใช้จ่ายนี้ถือเป็นต้นทุนหลักของการใช้งานในชีวิตประจำวัน มาดูกันว่าสถานีชาร์จแต่ละค่ายคิดราคาชาร์จรถไฟฟ้าอย่างไรบ้าง
ทำความเข้าใจอัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้า คิดจากอะไรบ้าง ?
ก่อนจะไปเข้าสู่รายละเอียดราคาของแต่ละค่าย สิ่งที่ควรทำความเข้าใจคือโครงสร้างอัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้าที่ใช้กันในประเทศไทย หากใครเคยสงสัยว่าราคาชาร์จรถไฟฟ้าคิดจากอะไร คำตอบอยู่ที่นี่แล้ว !
คิดตามหน่วยพลังงาน (บาท/kWh)
เป็นรูปแบบที่ใช้อย่างแพร่หลายที่สุดในประเทศไทย พบได้มากในเครื่องชาร์จ DC และ AC โดยจะกำหนดอัตราค่าบริการตามความเร็วและกำลังชาร์จ
คิดตามเวลา (บาท/ชั่วโมง)
พบได้ในเครื่องชาร์จ AC ที่ความเร็วต่ำกว่า เช่น AC 7.4 kW หรือ 22 kW เหมาะสำหรับการจอดชาร์จข้ามคืนหรือระหว่างทำกิจกรรมอื่น ๆ มักใช้ในคอนโดมิเนียมหรือห้างสรรพสินค้า
ปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม
หลายค่ายมีการกำหนดราคาค่าชาร์จรถไฟฟ้าที่แตกต่างกันระหว่างช่วง On-Peak (ช่วงไฟฟ้าแพง) และ Off-Peak (ช่วงไฟฟ้าราคาถูก) รวมถึงโปรแกรมสมาชิกหรือโปรโมชันที่อาจทำให้ได้ราคาพิเศษ
อัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้าในไทย ฉบับอัปเดต 2025
เมื่อโครงสร้างราคาชาร์จรถไฟฟ้าถูกกำหนดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่กำลังไฟฟ้าไปจนถึงช่วงเวลาและโปรโมชัน จึงทำให้ค่าชาร์จรถไฟฟ้าของแต่ละค่ายแตกต่างกันไป ซึ่งวันนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลล่าสุดที่จะช่วยให้ผู้ใช้ EV เห็นภาพรวมชัดเจนขึ้น และสามารถเลือกใช้บริการได้ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด
1. EA Anywhere
- DC Fast Charge: เริ่มต้น 7.11 บาท/kWh
- AC: เริ่มต้น 80 บาท/ชั่วโมง (มีแพ็กเกจตามจำนวนชั่วโมง)
2. Elex by EGAT
- DC 150 kW: 7.5 บาท/kWh
- AC: 7.5 บาท/kWh
3. EV Station PluZ
- DC (สาขาทั่วไป): On-Peak 7.7–8.2 บาท/kWh | Off-Peak 6.6 บาท/kWh
- DC (EV HUB): On-Peak 8.4 บาท/kWh | Off-Peak 7.1 บาท/kWh
4. eVolt
- DC 150 kW: 8–10 บาท/kWh
- AC: 60 บาท/ชั่วโมง
5. G-Charge
- DC 160 kW: 7.7 บาท/kWh
6. OneCharge
- DC 60 kW : 7.5–8.0 บาท/kWh
- DC 120 kW : 7–7.9 บาท/kWh
- DC 360 kW : 7.9 บาท/kWh
- DC 720 kW : 7.7 บาท/kWh
- DC ช่วง Off-Peak : 6.0 บาท/kWh
7. MG Supercharger
- DC 120 kW: On-Peak 7.5 บาท/kWh | Off-Peak 6.5 บาท/kWh
8. Onion
- DC 60 kW: 9.5 บาท/kWh
- AC: 60 บาท/ชั่วโมง
9. PEA Volta
- DC 25 kW: On-Peak 6.9 บาท/kWh | Off-Peak 5.3 บาท/kWh
- DC 50 kW: On-Peak 8.2 บาท/kWh | Off-Peak 6.3 บาท/kWh
- DC 120 kW: On-Peak 8.5 บาท/kWh | Off-Peak 6.5 บาท/kWh
- DC 300/360 kW: On-Peak 9.7 บาท/kWh | Off-Peak 7.2 บาท/kWh
10. MEA EV
- DC 120 kW: 7.5 บาท/kWh
11. Photon
- DC 120 kW: On-Peak 7.4 บาท/kWh | Off-Peak 5.9 บาท/kWh
12. ReverSharger
- DC (ราคาเริ่มต้น): 8 บาท/kWh
- Silver Tier: 7.2 บาท/kWh
- Gold Tier (สะสมครบ 160 kWh): 6.4 บาท/kWh
- Platinum Tier (สะสมครบ 360 kWh): 5.8 บาท/kWh
- AC: 55 บาท/ชั่วโมง
13. Shell Recharge
- DC 360 kW: 9 บาท/kWh
- AC: 8.5 บาท/kWh
14. Tesla Supercharger
- DC 250 kW : 7.17 บาท/kWh
- AC : ฟรี
ปัจจัยที่ผู้ขับ EV ควรคำนึงถึงในการเลือกสถานีชาร์จ
แม้ว่าอัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้าจะเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกใช้บริการ แต่ก็ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ผู้ขับขี่ควรให้ความใส่ใจด้วย ทั้งเรื่องของความสะดวก ความรวดเร็ว และจำนวนสถานีชาร์จ เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น ก่อนเลือกสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ควรคำนึงถึงปัจจัยต่อไปนี้
ทำเลที่ตั้งของสถานีชาร์จ
ควรเลือกเครือข่ายที่ครอบคลุมเส้นทางที่ใช้เป็นประจำ เพื่อให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องการวางแผนหยุดชาร์จรถระหว่างทางที่ไม่คุ้นเคย
กำลังชาร์จ (kW)
กำลังชาร์จของเครื่องเป็นตัวกำหนดเวลาในการเติมพลังงาน ยิ่งมีกำลังสูง รถก็จะใช้เวลาชาร์จน้อยลง เหมาะสำหรับการเดินทางไกลที่ต้องการความรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม กำลังชาร์จสูงมักมาพร้อมกับราคาค่าชาร์จรถไฟฟ้าที่สูงกว่า แนะนำให้พิจารณาสมดุลระหว่างเวลาและค่าใช้จ่ายตามความเหมาะสม
ระบบสมาชิกหรือโปรโมชัน
หลายค่ายมีการนำเสนอแพ็กเกจสมาชิก เช่น ReverSharger ที่ผู้ใช้ยิ่งสะสมการชาร์จมาก ก็จะยิ่งได้รับอัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้าที่ถูกลง ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาวและเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ประจำ นอกจากนี้ บางค่ายยังมีโปรโมชันเฉพาะช่วงเวลาที่ทำให้การชาร์จรถคุ้มค่ากว่าที่เคย
บริการเสริมและประสบการณ์การใช้งาน
สถานีชาร์จบางแห่งมีเลานจ์ คาเฟ หรือพื้นที่พักผ่อนที่สะดวกสบาย รวมถึงการรองรับการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันที่ทันสมัยและรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกว่าการรอชาร์จไม่ใช่ภาระ แต่เป็นโอกาสในการพักรถและผ่อนคลายก่อนเดินทางต่อ

อนาคตของราคาชาร์จรถไฟฟ้าในไทย
ในอนาคต แม้ว่าอัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้ามีแนวโน้มปรับขึ้นตามต้นทุนพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน แต่การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดรถ EV และนโยบายสนับสนุนจากทางภาครัฐ จะทำให้ราคาชาร์จรถไฟฟ้าไม่สูงเกินไปนัก ยิ่งไปกว่านั้นคือ ผู้ใช้จะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาโครงข่ายที่ครอบคลุมและมาตรฐานบริการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
การวางแผนเรื่องค่าชาร์จรถไฟฟ้าถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของการใช้ชีวิตกับ EV ในยุคใหม่ การรู้จักเลือกผู้ให้บริการและเข้าใจโครงสร้างราคาจะช่วยให้ทุกการเดินทางราบรื่น คุ้มค่า และตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ต้องการทั้งความสะดวกและความมั่นใจ
หากกำลังมองหารถ EV ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยกับดีไซน์ที่สะท้อนรสนิยมอย่างลงตัว ZEEKR X คือคำตอบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความคล่องตัวในเมือง ส่วนผู้ที่ต้องการความโอ่อ่า สะดวกสบายระดับ Executive Family Car ขอแนะนำ ZEEKR 009 ที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างแท้จริง
เชิญสัมผัส ทดลองขับ และค้นพบมาตรฐานใหม่ของการเดินทางได้ที่ ZEEKR METRO ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด นัดหมายได้แล้ววันนี้ โทร. 02-012-3999 หรือ LINE Official: @zeekrmetro
ข้อมูลอ้างอิง
- สรุปค่าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในไทยแต่ละค่าย อัปเดตมกราคม 2568. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 จาก https://ev.iphonemod.net/ev-charger-rate-update-jan-2025/.



